การรักษาด้วยการผ่าตัดฝังรากฟันเทียม เป็นการรักษาทางตัดกรรมอย่างหนึ่งที่ ช่วยให้ผู้ที่ต้องสูญเสียฟันธรรมชาติไปให้กลับมามีฟันที่สวยงามได้อีกครั้ง ซึ่งรากฟันเทียมนั้น เป็นวัสดุที่มีรูปร่างคล้ายรากฟันซึ่งทำมาจากไททาเนี่ยม เป็นวัสดุที่สามารถเข้ากับร่างกายมนุษย์ได้ดี ใช้สำหรับฝังลงไปในกระดูกขากรรไกรที่ใช้รองรับรากฟันเทียม เพื่อช่วยให้การทำรากฟันเทียมนั้น สามารถติดแน่นได้ ในปัจจุบันการสวมใส่รากฟันเทียมนั้น ถือว่าเป็นวิธีการใส่ฟันที่ดีที่สุดอีกวิธีหนึ่ง ซึ่งในแต่ก่อนมักจะนิยมใช้วิธีการสวมใส่ฟันปลอมเพื่อทดแทนฟันธรรมชาติที่สูญเสียไป
ซึ่งการสวมใส่ฟันปลอมนั้นก็มีข้อผิดพลาดและ สามารถใช้งานได้ไม่ดีเท่ากับรากฟันเทียม เพราะการสวมใส่ฟันปลอมนั้น ก็อาจจะมีปัญหาในเรื่องของฟันปลอมคับหรือหลวมจนเกินไป ทำให้รับประทานอาหารได้ไม่สะดวกและส่งผลอาจจะทำให้เกิดแผลภายในช่องปากได้ และในปัจจุบันนี้การรักษาด้วยการผ่าตัดฝังรากฟันเทียม ก็เป็นอีกวิธีการหนึ่งที่มาทดแทน การสวมใส่ฟันปลอมและยังเป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพมากกว่า โดยมีข้อดีก็คือการฝังรากฟันเทียมนั้น จะช่วยทำให้ผู้เข้ารับการรักษาสามารถรับประทานอาหารได้อย่างเต็มที่ไม่ต้องกลัวว่าฟันปลอมจะหลุดขณะรับประทานอาหาร รวมไปถึง วิธีการดูแลรักษาก็ไม่ต้องซับซ้อนเหมือนกับการดูแลรักษาฟันปลอม ในวันนี้ทางคลินิกเราจะมาพูดถึงการดูแลรักษารากฟันเทียม ซึ่งใครที่กำลังตัดสินใจว่าจะเข้ารับการรักษาด้วยการผ่าตัดฝังรากฟันเทียม ก็อาจจะมีข้อสงสัยว่ารากฟันเทียมนั้นมีวิธีการดูแลอย่างไรและดูแลได้ยากหรือไม่ ซึ่งการดูแลรักษารากฟันเทียมนั้นก็ต้องขึ้นอยู่กับผู้เข้ารับการรักษาด้วยว่าจะมีวิธีการดูแลสุขภาพช่องปากและฟันอย่างไร
ก่อนที่จะมาถึงขั้นตอนการดูแลรักษารากฟันเทียมนั้น เราจะมาพูดถึงข้อดีของรากฟันเทียมก่อนสำหรับข้อดีของรากฟันเทียมนั้นก็คือ ช่วยเพิ่มความมั่นใจ เสริมสร้างบุคลิกภาพและทำให้ผู้เข้ารับการรักษามีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น นอกจากนี้ ยังทำให้ผู้เข้ารับการรักษามีฟันเทียมที่ดูเป็นธรรมชาติ สามารถใช้งานได้ใกล้เคียงกับฟันธรรมชาติมากที่สุด สามารถบดเคี้ยวและรับประทานอาหารได้ดี ไม่มีปัญหาในเรื่องของการออกเสียง หากเมื่อเทียบกับการทำฟันปลอมแล้ว นอกจากนี้ ผู้เข้ารับการรักษาไม่ต้องทำการกรอกฟันข้างเคียง อีกทั้งยังช่วยป้องกันการสูญเสียฟันและกระดูกข้างเคียงได้ด้วย หากพูดถึงในแง่ของความสวยงาม การรักษาด้วยการผ่าตัดฝังรากฟันเทียมนั้น ถือเป็นวิธีที่เป็นธรรมชาติมากที่สุด ทำให้ผู้เข้ารับการรักษามีฟันที่สวยงามเป็นธรรมชาติ ทั้งยังช่วยเสริมสร้างสุขภาพช่องปากและฟันให้มีสุขภาพช่องปากที่ดี มีความคงทนถาวร รวมไปถึง ช่วยแก้ไขปัญหาฟันเทียมขยับระหว่างพูดคุยหรือรับประทานอาหารอีกด้วย สำหรับขั้นตอนการดูแลรักษารากฟันเทียมที่หลายคนสงสัยว่า สามารถทำได้วิธีใด ต้องบอกเลยว่าการดูแลรักษารักฟันเทียมก็สามารถทำได้ ด้วยการแปรงฟันให้สะอาด รวมไปถึงการใช้ไหมขัดฟันร่วมด้วย
หากเราดูแลรักษาสุขภาพช่องปากและฟันได้ดีและถูกวิธีก็จะสามารถยืดอายุการใช้งานของรากฟันเทียมได้ด้วย เนื่องจากรากฟันเทียมนั้นทำมาจากวัสดุไทเทเนี่ยมที่มีความคงทน แต่อย่างไรก็ตาม อายุการใช้งานของรากฟันเทียมก็จะขึ้นอยู่กับการดูแลรักษาสุขภาพช่องปากและฟันของผู้เข้ารับการรักษาด้วย หากรากฟันเทียมไม่ผุ แต่หากเกิดโรคเหงือกอักเสบ ก็อาจจะทำให้รากฟันเทียมเกิดการหลุดหรือติดเชื้อได้ ดังนั้น การดูแลรักษารากฟันเทียม ก็เหมือนกับการดูแลรักษาฟันธรรมชาติของเรา นอกจากนี้ผู้เข้ารับการรักษาจะต้องเข้ารับการตรวจสุขภาพช่องปากและฟันเป็นประจำ หากปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของทันตแพทย์รากฟันเทียมนั้นก็จะอยู่ได้อย่างถาวรโดยไม่เกิดปัญหาใดๆ ทางคลินิกเราอยากให้ทุกคนหันมาใส่ใจในเรื่องของการดูแลรักษาความสะอาดของช่องปาก หากใครสนใจเข้ารับการรักษาด้วยการผ่าตัดฝังรากฟันเทียม ก็สามารถติดต่อขอรับคำแนะนำได้ที่คลินิก ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
วัสดุอุดฟันแตกหัก ควรทำอย่างไร
ปัญหาสุขภาพช่องปากและฟัน ถือเป็นเรื่องที่สำคัญมากที่เราจะต้องเอาใจใส่ให้มากเป็นพิเศษ เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาสุขภาพฟันตามมาในอนาคต ควรดูแลรักสาสุขภาพฟันให้สะอาดอยู่เสมอ เพื่อให้เราได้มีสุขภาพฟันที่แข็งแรงและไม่เกิดฟันผุ ซึ่งการเกิดฟันผุนั้นจะสร้างปัญหาตามมามากมาย ไม่ว่าจะเป็นการสูญเสียฟันหรือการเกิดโรคเหงือกอักเสบเพราะฉะนั้น เราจึงควรดูแลสุขภาพช่องปากและฟันให้ดี ซึ่งหลายคนที่เคยมีปัญหาช่องปากและฟัน อาจเคยเข้ารับการอุดฟันเพื่อเป็นการรักษาฟันให้สวยและมีสุขภาพที่ดี สำหรับการอุดฟันนั้น เป็นวิธีทางการทันตกรรมที่ใช้รักษาฟันที่ถูกทำลายจากการเกิดฟันผุจนเป็นโพรงหรือรู การอุดฟันนั้นจะสามารถช่วยให้เราไม่ให้มีฟันผุเพิ่มขึ้น ด้วยการปิดช่องทางไม่ให้เชื้อแบคทีเรียเข้าไปภายในรูหรือโพรงนั้นได้อีก โดยทันตแพทย์จะเป็นผู้ทำการอุดฟันให้กับผู้เข้ารับการรักษา โดยนำวัสดุอุดฟันที่ทำจากโลหะปรอท เงิน ทองแดง และสังกะสี หรืออาจจะใช้วิธีการอุดฟันด้วยวัสดุที่สีเหมือนฟัน ซึ่งการเลือกใช้วัสดุนั้นจะขึ้นอยู่กับการพิจารณาของทันตแพทย์ที่จะเลือกใช้ให้เหมาะสมกับผู้เข้ารับการรักษา สำหรับการอุดฟันนั้น นิยมทำกันอย่างแพร่หลาย เพราะเป็นการป้องกันการเกิดฟันผุ และมีวิธีการที่ไม่ซับซ้อน โดยทันตแพทย์จะทำการตรวจฟันบริเวณที่ผุ โดยเริ่มจากการใช้ยาชาบริเวณฟันที่จะอุดและกรอฟันในส่วนที่พูดออกไป โดยใช้เครื่องมือ ซึ่งการเลือกเครื่องมือก็จะขึ้นอยู่กับความถนัดของทันตแพทย์ รวมไปถึงขึ้นอยู่กับตำแหน่งและขนาดของฟันผุ
หลังจากนั้นจะทำการทำความสะอาดฟันให้เหลือแต่เนื้อฟันที่แข็งแรงเพื่อให้พร้อมต่อการอุดฟัน ทันตแพทย์ก็จะนำวัสดุที่นำมาอุดฟันอุดลงไปบริเวณรูหรือโพรงของฟันที่ต้องการอุด หลายคนเกิดการสงสัยว่าทำไมเราจะต้องอุดฟัน ต้องบอกก่อนว่า การอุดฟัน คือ การทดแทนเนื้อฟันที่สูญเสียไป จากกรณีฟันผุ ฟันสึก ฟันแตกหักหรือบิน เนื่องจากเกิดอุบัติเหตุหรือวัสดุอุดเก่าเกิดการชำรุดหรือบิ่นออก เพื่อให้ฟันกลับมามีรูปร่างเป็นปกติและสามารถใช้บดเคี้ยวอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมไปถึงทำให้มีความสวยงาม โดยเฉพาะในบริเวณฟันหน้า โดยส่วนใหญ่ทันตแพทย์จะใช้วัสดุอุดโลหะอะมัลกัม ซึ่งเป็นวัสดุอุดฟันที่คงทน แข็งแรง และมีราคาที่ไม่สูงมาก แต่เนื่องจากวัสดุมีสีเงิน สีเทามองแล้วดูไม่สวยงามจึงไม่นิยมใช้ในบริเวณที่มองเห็นได้ง่าย เช่น ฟันหน้า หรือสำหรับผู้ป่วยที่อุดด้วยวัสดุนี้ไม่ควรบดคี้ยวอาหารด้านที่อุดฟันเป็นระยะเวลา 24 ชั่วโมง เนื่องจากวัสดุที่ใช้ในระยะแรกยังมีความแข็งแรงไม่เต็มที่ อาจจะมีโอกาสที่จะเสี่ยงต่อการแตกหักได้นั่นเอง หลายคนเกิดความสงสัยว่า ถ้าหากวัสดุที่อุดฟันหลุดเราควรทำอย่างไร
วันนี้ทางคลินิกก็จะมาให้คำตอบเกี่ยวกับการที่วัสดุอุดฟันหลุดเราควรรับมือกับปัญหานี้อย่างไร การที่วัสดุอุดฟันหลุดนั้น เป็นปัญหาที่มักพบได้บ่อย โดยวัสดุที่ใช้อุดฟันอาจจะเกิดการหลวมหรือแตกหักจากการกระทบของแข็ง ซึ่งจะทำให้เกิดอาการปวดฟันตามมาได้ และเมื่อวัสดุที่หลุดออกฉันของเนื้อฟันหรือโพรงประสาทฟันก็จะสัมผัสกับอากาศหรืออาหารโดยตรง จะทำให้รู้สึกปวดฟันได้ สำหรับผู้เข้ารับการรักษาที่อุดฟันมานานแล้ววัสดุที่อุดฟันอาจจะมีการเสื่อมตามอายุการใช้งานได้ และมีโอกาสที่จะหลุดออกเช่นเดียวกัน โดยส่วนใหญ่จะมีอายุการใช้งานประมาณ 10 ปีหรืออาจจะสั้นกว่านั้นขึ้นอยู่กับการใช้งานและการดูแลสุขภาพช่องปากและฟัน
แต่ถ้าหากวัสดุอุดฟันหลุดออกแล้ว ผู้เข้ารับการรักษาจำเป็นต้องเข้าพบทันตแพทย์ทันที เพื่อกรอเอาวัสดุที่ยังอาจติดค้างอยู่ออกให้หมด และใส่วัสดุอุดฟันใหม่ หากปล่อยทิ้งไว้ให้เป็นรูหรือโพรง อาจจะทำให้เกิดอาการเสียวฟันหรือปวดฟันขึ้นได้แต่ทั้งนี้จะขึ้นอยู่กับความลึกของรูนั้น ที่สำคัญคือ เศษอาหารที่เรารับประทานเข้าไป อาจจะเข้าไปติดอยู่ทำให้เกิดฟันผุลึกลงไปกว่าเดิม จนทำให้เกิดการสูญเสียฟันได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อผู้เข้ารับการรักษาได้เข้ารับการอุดฟันใหม่แล้ว ควรดูแลวัสดุอุดฟันและสุขภาพช่องปากและฟันให้สะอาด ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีความแข็งหรือบดเคี้ยวอาหารแรงๆ เช่น การเคี้ยวน้ำแข็ง เมล็ดพืชแข็งๆ เป็นต้น รวมไปถึงสิ่งของที่ไม่ใช่อาหาร เช่น ปากกา ฝาขวด เป็นต้น นอกจากนี้เราควรดูแลรักษาความสะอาดช่องปากและฟันให้มีความสะอาดอยู่เสมอ เพื่อทำให้เรามีสุขภาพช่องปากและฟันที่แข็งแรงและยังเป็นการรักษาสภาพฟันหลังจากการอุดฟันให้ดีด้วย
ทางคลินิก อยากให้ทุกคนมีสุขภาพช่องปากและฟันที่แข็งแรง เพราะฉะนั้น ผู้เข้ารับการรักษาควรปฏิบัติตนเพื่อดูแลสุขอนามัยของช่องปากและฟันให้สะอาดอยู่เสมอ ทั้งการแปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันและที่สำคัญควรเข้าพบทันตแพทย์เพื่อทำความสะอาดเป็นประจำหรือใช้น้ำยาบ้วนปากต่อต้านแบคทีเรียอย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง ถ้าหากใครมีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพช่องปากและฟันสามารถติดต่อขอรับคำแนะนำที่คลินิกได้ ทางเรามีทีมทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับสุขภาพช่องปากและฟันและยังมีบริการทางด้านทันตกรรมอย่างครบวงจร จึงมั่นใจได้ว่าคุณจะมีสุขภาพช่องปากและฟันที่แข็งแรงขึ้นได้อย่างแน่นอน แถมยังทำให้คุณมีบุคลิกภาพที่มั่นใจสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างมีความสุขอีกด้วย
จัดฟันบางนา: การดูแลรักษารากฟันเทียม ทำได้ยากหรือไม่ อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.idolsmiledental.com/category/จัดฟันบางนา/