ฉนวนกันความร้อน ตัวช่วยเพิ่มภาพลักษณ์โรงงาน ให้ดูดีเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

[siritidaphon]

ฉนวนกันความร้อน ตัวช่วยเพิ่มภาพลักษณ์โรงงาน ให้ดูดีเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ฉนวนกันความร้อน คือผลิตภัณฑ์สำคัญสำหรับโรงงานอุตสาหกรรม ความจริงข้อนี้เป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการทุกคนตระหนักดีอยู่แล้ว เพราะหากละเลยไม่วางแผนติดตั้งฉนวนกันความร้อนให้เหมาะสมกับกิจกรรมกระบวนการผลิตในโรงงานล่ะก็ โอกาสเสี่ยงสูญเสียพลังงานสิ้นเปลืองต้นทุนจนกำไรหดหายก็จะมีมากมายมหาศาล

แต่ทั้งนี้ ในการวางแผนติดตั้ง “ฉนวนกันความร้อนโรงงาน” ผู้ประกอบการสามารถยิงปืนนัดเดียวได้นก 2 ตัวได้ โดยได้ทั้งการแก้ไขปัญหาความร้อนสะสมภายในโรงงาน และการเสริมภาพลักษณ์โรงงานให้ดูดีขึ้นด้วยแนวคิดโรงงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งสามารถทำได้โดยการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ ฉนวนกันความร้อน ซึ่งมีความโดดเด่นในแง่ของการเป็นฉนวนที่ไม่ทำลายธรรมชาติ ด้วยคุณสมบัติต่าง ๆ ที่ไม่เหมือนฉนวนกันความร้อนทั่วไป ดังต่อไปนี้


1.เป็นฉนวน Eco Value

ฉนวนกันความร้อน เป็นผลิตภัณฑ์ภายใต้ฉลาก Eco Value ซึ่งหมายถึง การเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีกระบวนการผลิตหรือการใช้งานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และมีคุณสมบัติความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่ดีกว่าสินค้าทั่วไป ถือเป็นผลิตภัณฑ์ฉนวนกันความร้อนเดียวที่ไม่เพียงแค่ตัววัสดุเท่านั้นที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แต่กระบวนการผลิตยังได้รับการควบคุมอย่างดีให้ทำลายสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุดด้วย

2.เป็นฉนวนกันความร้อนที่ได้ได้คาร์บอนฟุตปริ๊นท์

หลาย ๆ คนอาจมองว่า Eco Value เป็นฉลากที่กำหนดเองโดย อาจจะดูไม่เป็นกลางเท่าไร แต่เพื่อเป็นการการันตีว่าทำไม่ฉนวนกันความร้อนโรงงาน ถึงดีต่อสิ่งแวดล้อมนั้น การได้รับฉลากคาร์บอนฟุตปริ๊นท์ สามารถเป็นเครื่องช่วยยืนยันได้ดีอีกทางหนึ่ง

เพราะฉลากคาร์บอนฟุตปริ๊นท์ คือการแสดงข้อมูลให้ทราบว่า ตลอดวงจนชีวิตของผลิตภัณฑ์ตั้งแต่ผลิตจนกระทั่งเสื่อมสลายไปนั้นมีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกออกมามากน้อยแค่ไหน ซึ่งฉนวนกันความร้อนนั้นถือว่าน้อยมาก การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ฉนวนกันความร้อน จึงถือเป็นการช่วยโลกและธรรมชาติไปด้วยพร้อม ๆ กัน


3.เป็นฉนวนกันความร้อนที่ได้ฉลากเขียว

ฉลากเขียว หรือ Green Label เป็นฉลากที่มีแนวคิดคล้าย ๆ กันกับEco Value และ คาร์บอนฟุตปริ๊นท์ คือ เป็นฉลากที่บ่งบอกถึงสินค้า ที่มีกระบวนการผลิต การใช้ ตลอดจนถึงการทำลายทิ้งที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยกว่าสินค้าประเภทเดียวกันที่ไม่ได้รับการรับรองฉลากเขียว ซึ่งการที่ฉนวนกันความร้อนโรงงานได้รับ Green Label ด้วยนั้น จึงยิ่งการันตีได้ว่า เป็นฉนวนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง


4.เป็นฉนวนกันความร้อนฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5

เชื่อว่าทุกคนคงคุ้นเคยกับฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 กันอยู่แล้ว แต่อาจแปลกใจว่ามีให้เฉพาะแค่กับเครื่องใช้ไฟฟ้าไม่ใช่หรือ? คำตอบคือ ไม่ใช่ เพราะแท้จริงแล้วฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 นั้น เรียกอีกอย่างว่า ฉลากประสิทธิภาพสูง ซึ่งจะมอบให้สำหรับผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติโดดเด่นในการช่วยประหยัดพลังงานและอนุรักษ์พลัง

โดยฉนวนกันความร้อน ก็มีความสามารถในการช่วยโรงงานประหยัดไฟได้ และมีค่าต้านทานความร้อนถึงเกณฑ์ตามที่กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงานกำหนด ดังนั้น ผู้ประกอบการที่เลือกใช้ฉนวนกันความร้อน จึงมั่นใจได้เลยว่า โรงงานของตัวเองจะประหยัดพลังงานได้มากขึ้น ค่าไฟถูกลง และที่สำคัญคือ เท่ากับโรงงานก็ได้เป็นส่วนหนึ่งในการอนุรักษ์พลังงานโลกไปด้วยพร้อมกัน


5.เป็นฉนวนที่ดีต่อสุขภาพ ไม่ก่อให้เกิดโรค

นอกจากจะเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมแล้ว ฉนวนกันความร้อน ยังเป็นมิตรต่อสิ่งมีชีวิต ด้วยการเป็นฉนวนที่ทำมาจากแก้วรีไซเคิล 100% ซึ่งแน่นอนว่าช่วยลดปริมาณขยะลงได้มาก แต่ความพิเศษอยู่ที่เมื่อนำมาเข้าสู่กระบวนการผลิตเป็นฉนวนใยแก้วแล้วนั้น ฉนวนกันความร้อน ได้รับการรับรองจากหน่วยงานขององค์การอนามัยโลก WHO ว่าเป็นฉนวนที่ไม่มีสารก่อให้เกิดมะเร็งในมนุษย์ จึงทำให้เป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ ที่ได้รับความไว้วางใจจากโรงงานอุตสาหกรรมต่าง ๆ นำเข้าไปใช้ภายในโรงงาน ตลอดจนที่อยู่อาศัย เพราะฉนวนกันความร้อนบางประเภท ที่ทำจากวัสดุอื่น ๆ นั้น มักมีความเสี่ยงที่อาจทำให้เกิดโรคภัยต่อพนักงาน หรือผู้อยู่อาศัยภายในพื้นที่ได้

โดยปกติแล้วภาพลักษณ์ของโรงงานอุตสาหกรรมนั้น มักถูกมองคู่กับการทำลายสิ่งแวดล้อม สร้างขยะ สร้างมลพิษให้เกิดขึ้นกับโลกและชุมชนอยู่แล้ว ดังนั้น การเลือกใช้ฉนวนกันความร้อน อย่างฉนวนกันความร้อน ที่มีคุณสมบัติที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ จึงเป็นการช่วยยกระดับภาพลักษณ์ของโรงงานให้ดูดีมากขึ้น เป็นที่ไว้ใจในมากขึ้นในสายตาของชุมชนและผู้บริโภค


นอกจากนั้น ประโยชน์หลักใหญ่สำคัญของการติดตั้ง ฉนวนกันความร้อน ที่เป็นฉนวนคุณภาพดี ก็คือการได้แก้ไขปัญหาความร้อนสะสมภายในโรงงาน ทำให้ต้นทุนค่าไฟ ต้นทุนในการผลิต ต้นทุนในการดูแลรักษา ซ่อมบำรุงเครื่องจักรลดลง ส่งผลที่ดีต่อการดำเนินธุรกิจ ทำให้มีกำไรเพิ่มขึ้น บรรยากาศภายในโรงงานเป็นมิตรมากขึ้น ทำให้พนักงานทำหน้าที่ของตัวเองได้อย่างปลอดภัยและมีความสุข ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อพนักงานทำหน้าที่ได้ดี การดำเนินกิจการก็จะราบรื่นดีไม่มีสะดุด