ผู้เขียน หัวข้อ: สูตรอาหารแก้เมาค้างจากก้นครัวต่างแดน จะปาร์ตี้ประเทศไหนก็เอาอยู่  (อ่าน 41 ครั้ง)

siritidaphon

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 320
  • โพสฟรี โพสต์ขายของฟรี ลงโฆษณาสินค้าฟรี โฆษณาสินค้าฟรี สมัครสมาชิก ขายรถมือสอง แหล่งรวมของสะสม มากมายให้เลือกซื้อขาย
    • ดูรายละเอียด
ขึ้นชื่อว่าหนุ่มสายปาร์ตี้ ไม่ว่าจะไปเที่ยวประเทศไหนๆ ก็คงไม่พลาดติดลิสต์ร้านเหล้า ผับ และบาร์ชื่อดังประจำท้องถิ่นกันไปด้วยเสมอ แต่แน่ใจได้อย่างไรว่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่างแดนจะไม่เล่นงาน ทำเอาคุณน็อกจนลุกไปเที่ยววันต่อไปไม่ไหว ออกทริปทั้งทีถ้าไม่อยากเมาแอ๋แบบนี้ จด ‘สูตรอาหารแก้เมาค้าง’ จากก้นครัวต่างแดนเหล่านี้ติดไปด้วย พกไว้รับรองอุ่นใจกว่าแน่นอน


‘Fry Up’ จานอุดมโปรตีนและไขมัน

อาหารแก้เมาค้างที่สายดริงก์จากแดนผู้ดียกให้เป็นเมนูแก้แฮงก์สุดคลาสสิก มาในรูปแบบเมนูอาหารเช้าที่เรียกกันว่า ‘Fry Up’ เมนูนี้ทานแล้วอิ่มแบบจุกๆ และอุดมไปด้วยคุณประโยชน์จากวัตถุดิบจัดเต็ม ไม่ว่าจะเป็นไข่ดาว, เบคอน, ไส้กรอก, เห็ดซอเท่ (Sautéed), มะเขือเทศย่าง, ขนมปังปิ้ง, ถั่วกระป๋อง และมันฝรั่งขูดทอด (Hash Browns) สูตรนี้ตกทอดมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 ปัจจุบันกลายเป็นอีกหนึ่งเมนูประจำชาติของประเทศอังกฤษ ทั้งนี้เคยมีบริษัทผลิตไข่ไก่แห่งหนึ่งทำวิจัย เพื่อพิสูจน์ประสิทธิภาพในการแก้เมาค้างของเจ้าเมนู Fry Up ด้วย พบว่าคนที่ทานอาหารเช้าจานจัดเต็มนี้ หลังฟื้นจากปาร์ตี้แสนโหดจะรู้สึกดีขึ้นภายใน 3 ชั่วโมง เนื่องจากเป็นเมนูที่อุดมไปด้วยคุณค่าทางอาหารจากโปรตีนและไขมัน ซึ่งเข้าไปเยียวยาสภาพร่างกายที่อิดโรยได้ดี


แกล้มรสเปรี้ยว

‘ปลาทะเลสดๆ มิกซ์กับน้ำมะนาว มะเขือเทศ เกลือ และพริกไทย’ เป็นจานเด็ดรสแซ่บที่มีเสิร์ฟทั่วไปตามร้านอาหารในเมืองริมชายฝั่ง และเมืองท่องเที่ยวของประเทศเอกวาดอร์ นักท่องเที่ยวที่มาเยือนหรือแม้กระทั่งคนพื้นที่ที่โดนฤทธิ์แอลกอฮอล์เล่นงาน มักได้รับคำแนะนำให้ถอนอาการเมาค้างด้วยเมนูนี้เสมอ เพราะทานแล้วให้ความรู้สึกสดชื่นคล้ายเมนูยำในบ้านเรา ทั้งนี้ข้อมูลเผยว่าคนเอกวาดอร์นิยมทานเมนูปลาดิบรสแซ่บสไตล์นี้ คู่กับของทานเล่นประเภททอดหรือคั่ว เช่น ข้าวโพดคั่ว หรือกล้ายทอด (กล้าย หรือ Plantain เป็นพืชในตระกูลเดียวกันกับกล้วย เติบโตดีในทวีปแอฟริกาและประเทศแถบลาตินอเมริกา) นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งเมนูที่นิยมนำมาทานแก้แฮงก์กัน เป็นเมนูประจำชาติที่มีชื่อว่า ‘Encebollado’ ทำจากปลาทะเลใส่หอมแดงดอง โดยอาศัยรสเปรี้ยวจากหอมแดงดองมาช่วยแก้อาการพะอืดพะอม



ซุปไก่และซุปเนื้อวัวรสคล่องคอ

สูตรอาหารแก้เมาค้างของหนุ่มๆ แดนกิมจิ ทำจากไก่, โสมเกาหลี, ข้าวสาร, และพุทรา โดยนำทั้งหมดมาตุ๋นในหม้อดิน ปรุงรสตามในชอบ เรียกเมนูนี้ว่า ‘Samgyetang (삼계탕)’ เวลาทานต้องยกเสิร์ฟพร้อมหม้อดินแบบกำลังเดือดปุดๆ นอกจากทานเพื่อให้ฟื้นตัวจากพิษโซจูแล้ว ยังนิยมทานเป็นอาหารเช้าในช่วงที่อากาศหนาวจัดด้วย แม้รสชาติโสมจะค่อนข้างขมจนทำให้ซุปนี้ทานยากมากขึ้น แต่จากประสบการณ์ที่นักดื่มส่วนใหญ่ได้ลอง ต่างพูดเป็นเสียงกันว่าหลังซดซุปไปไม่กี่นาที อาการมึนหัวและคลื่นไส้จะหายไปในทันที ชนิดที่ไม่ต้องพึ่งยาแก้เมาค้างแต่อย่างใด ไม่เพียงแต่ซุปไก่เท่านั้น ชาวเกาหลีใต้ยังนิยมซดซุป ‘Haejang-Guk (해장국)’ ซึ่งทำจากเนื้อวัว, ใส่ไส้กรอกเลือด, เครื่องในวัว และกะหล่ำปลี เพื่อแก้แฮงก์อีกด้วย เป็นสูตรที่มีมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์โครยอ ราชวงศ์ลำดับแรกของเกาหลีใต้ เดิมทีนิยมทานกันเฉพาะในกลุ่มคนชนชั้นสูง ต่อมารสชาติสุดกลมกล่อมจึงได้ถ่ายทอดมาสู่สามัญชน



ซุปกระดูกวัวและช็อกโกแลตร้อน

ซุปสูตรโคลัมเบียอย่าง ‘Caldo de Costilla’ เมื่อซดร้อนๆ ก็ช่วยให้หายใจโล่งและฟื้นจากอาการเมาค้างได้ดี คนท้องถิ่นถึงกับยกให้เป็นสูตรแก้แฮงก์ที่ปลุกสายดริงก์จากความตายได้เลยทีเดียว ส่วนผสมที่ช่วยให้ออกฤทธิ์ได้ดีขนาดนี้ได้มาจากกระดูกวัว, มันฝรั่ง, หอมใหญ่, กระเทียม และยี่หร่า โดยนำทุกอย่างมาตุ๋นรวมกันแล้วปรุงรสตามใจชอบ โรยผักชีสดๆ ตบท้าย ตักเสิร์ฟตอนยังร้อนจัด ปล่อยให้ควันหอมฉุยปะทะใบหน้าสักพัก แล้วซดตอนยังอุ่นๆ อยู่ จะให้ความรู้สึกสบายท้อง สำหรับใครไม่ทานเนื้อวัว ชาวโคลัมเบียยังได้แนะนำเมนูแก้เมาค้างที่ทานกันได้ทุกเพศทุกวัยอย่าง ‘Hot Chocolate’ มาด้วย ดื่มเข้าไปรับรองว่าฟื้นตัวได้ดีไม่แพ้เมนูของคาวเลย



ปลาเฮร์ริงม้วนกับผักดองสดรสเปรี้ยว

ชาวเยอรมันจัดการอาการคลื่นไส้หลังจัดหนักกับปาร์ตี้ ด้วยเมนูท้องถิ่นทางตอนเหนือของประเทศ อย่าง ‘Rollmops’ เมนูนี้มีพระเอกคือปลาม้วนสอดไส้ผักดอง เป็นภูมิปัญญาการถนอมอาหารของชาวเยอรมันตั้งแต่อดีต โดยในฤดูที่ปลาเฮร์ริง (Herring) ชุกชุม จะนำมาดองเพื่อให้เก็บไว้กินได้นาน เวลาดองจะแร่เนื้อปลาพร้อมหนังออกเป็นแผ่นตามยาว จากนั้นนำมาม้วนโดยสอดไส้หัวหอมหรือแตงกวาไว้ตรงกลาง แล้วใช้ไม้กลัดเพื่อยึดทุกอย่างเข้าด้วยกัน นำส่วนผสมที่ได้ลงดองในโหลหรือหม้อดินบรรจุน้ำเกลือนานอย่างน้อย 2 วัน ก็พร้อมทาน ทั้งนี้คนท้องถิ่นนิยมทาน Rollmops แบบสดๆ บางคนก็ทานแกล้มกับผักดองและครีมเปรี้ยว หากคุณไม่ทานดิบสามารถนำไปปรุงสุกด้วยการอบหรือรมควัน แล้วทานคู่กับขนมปังคล้ายเบอร์เกอร์ก็ได้ เมนูนี้ยังนิยมทานเป็นมื้อหลักในสวีเดน สก็อตแลนด์ และเนเธอแลนด์อีกด้วย


ซุปกระเพาะวัวและน้ำกะหล่ำปลีเปรี้ยว

ปาร์ตี้สุดเหวี่ยงของชาวบัลแกเรีย มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ประจำท้องถิ่นอย่าง ‘Rakia’ เป็นเครื่องดื่มหลัก มื้อแรกหลังกระดก Rakia แบบเต็มที่ นักดื่มมักถอนพิษเหล้าด้วยการซุปกระเพาะวัวร้อนๆ เมนูนี้เรียกกันว่า ‘Shkembe Chorba’ (หรือ Tripe Soup) ปรุงง่ายๆ ด้วยการตุ๋นกระเพาะวัวกับนมสด, กระเทียม, น้ำส้มสายชู, พริกไทย, พริกแดง, น้ำมันเล็กน้อย และเกลือ ตั้งไฟทิ้งไว้ประมาณ 2 ชั่วโมง ก็พร้อมทาน นิยมทานหลังดื่มหรือไม่ก็ทานเป็นกับแกล้มไปพร้อมกันเลย ส่วนอีกเมนูก็นิยมไม่แพ้กันนั่นคือ ‘น้ำกะหล่ำปลีเปรี้ยว (Sour Cabbage Juice)’ โดยนำกะหล่ำปลีมาหมักกับโยเกิร์ต น้ำเปล่า และเกลือ เพื่อถนอมอาหารไว้กินช่วงฤดูหนาวของทุกปี เมนูนี้มีงานวิจัยรองรับด้วยว่าสามารถลดความเสี่ยงจากโรคมะเร็งได้



เครื่องดื่มเกลือแร่ชดเชย

หากเกิดอาการแฮงก์จนบ้านหมุนหลังกลับจากปาร์ตี้ที่ประเทศสวีเดนล่ะก็ ไม่ต้องกังวลไป สายดริงก์ที่นี่มียาสามัญประจำตัวคือ ‘Bakis’ เกลือแร่ยี่ห้อดังของประเทศ เพียงนำเมล็ดเกลือแร่มาละลายน้ำแล้วดื่มก่อนเข้านอน เพื่อชดเชยน้ำที่สูญเสียไป เนื่องจากเวลาดื่มแอลกอฮอล์เข้าไปปริมาณมาก ร่างกายจะสูญเสียน้ำไปในปริมาณมากเช่นกัน เมื่อดื่มเกลือแร่แล้วจะทำให้รู้สึกดีขึ้นตอนตื่นนอน ถือเป็นไอเทมจำเป็นที่หนุ่มสาวชาวสวีเดนหลายคน พกติดกระเป๋าเวลาเดินทางไปแฮงก์เอาต์ต่างประเทศด้วย


น้ำมะเขือเทศ

‘Bloody Mary’ เครื่องดื่มค็อกเทลชื่อดังที่รู้จักกันดีในหลายประเทศ ถูกนำมาบันทึกในตำราถอนพิษสุราของฝรั่งเศสและสหรัฐอเมริกา ด้วยฤทธิ์สัมผัสรุนแรงและโดดเด่นจากวอดก้า, ซอสวูสเตอร์เชีย, ซอสทาบาสโก, น้ำมะเขือเทศ, เกลือ, พริกไทยดำ, และพริกชี้ฟ้า ทำให้ผู้ดื่มรู้สึกร้อนวูบวาบ จมูกโล่ง เหมือนได้สร่างเต็มตา ตำนานเล่าว่าค็อกเทลชนิดนี้คิดค้นโดยบาร์เทนเดอร์ชาวอเมริกัน ประจำโรงแรมชื่อดังอย่าง เซนต์ รีจิส (St.Regis) ชื่อเมนูมีการแฝงนัยการเสียดสีพระราชประวัติของสมเด็จพระราชินีนาถแมรี่ที่ 1 แห่งอังกฤษ จากกรณีที่เคยสั่งล่าและสังหารโหดผู้คนที่หันไปนับถือศาสนาคริสต์ นิกายโปแตสแตนต์ โดยให้สีแดงของน้ำมะเขือเทศเป็นตัวแทนของเหตุการณ์นองเลือด อย่างไรก็ตามมีบางหลักฐานค้านว่าความจริงแล้ว เครื่องดื่มชนิดนี้เพียงแค่ได้รับแรงบันดาลใจ มาจากชื่อของดาราภาพยนตร์คนดังของฝรั่งเศสในอดีต กระทั่งมีการพัฒนารสชาติจนเป็นที่ติดอกติดใจของนักดื่มจนมาถึงปัจจุบัน


นมเปรี้ยวสูตรพิเศษและน้ำแตงกวาดอง

ตัวช่วยแก้อาการเมาค้างที่ชาวเมืองหมีขาวอย่างรัสเซียแนะนำคือ ‘Milk Kefir’ เป็นนมเปรี้ยวสูตรพิเศษของท้องถิ่น ทำจากหัวเชื้อนม Kefir ซึ่งประกอบไปด้วยยีสต์และกรดแล็กติก (Lactic) ผสมกับนมวัวหรือนมแกะสดๆ จนได้เป็นมเปรี้ยวที่มีจุลินทรีย์และสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมากกว่าโยเกิร์ตทั่วไป ทั้งยังเป็นเมนูเฮลธ์ตี้ที่ชาวรัสเซียนิยมทานเพื่อดีท็อกซ์ร่างกายอีกด้วย นอกจากนั้นรสเปรี้ยวที่โดดเด่นยังช่วยลดอาการท้องไส้ปั่นป่วนได้ดี ที่รัสเซียยังมีวัฒนธรรมการดื่ม ‘น้ำแตงกวาดอง’ แก้เมาค้าง ซึ่งได้ผลดีเช่นกัน คล้ายเป็นการเติมเกลือแร่เพื่อทดแทนน้ำที่ร่างกายสูญเสียไป


เมนูแปลกลูกตาแกะดองใส่น้ำมะเขือเทศ

เมนูชวนขนลุกของมองโกเลียอย่าง ‘ลูกตาแกะดองใส่น้ำมะเขือเทศ’ หรือ A Pair of Pickled Sheep Eyes in Tomato Juice ก็แก้อาหารเมาหัวทิ่มได้ดีชะงัดนัก อย่างไรก็ตามในทางวิทยาศาสตร์เชื่อว่า วัตถุดิบหลักอย่างมะเขือเทศน่าจะเป็นฮีโร่ของเมนูนี้มากกว่า เพราะอุดมไปด้วยโซเดียมและโพแทสเซียม ช่วยให้ร่างกายกักเก็บน้ำไว้ทดแทนส่วนที่ถูกขับออกไป เหมือนเวลาเราทานเกลือแร่บรรเทาอาการท้องร่วงที่ทำให้ร่างกายเสียน้ำในปริมาณมาก ส่วนการใส่ลูกตาแกะลงไปด้วยน่าจะเป็นวัฒนธรรมการกินของชาวมองโกเลียมากกว่า ดังนั้นเวลาไปเที่ยวที่ประเทศนี้แล้วแฮงก์จนเสียการทรงตัว ตื่นเช้ามาอาจเลือกทานแค่น้ำมะเขือเทศสดๆ สักแก้วก็เพียงพอ แต่หากสนใจเมนูแปลกเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว อยากหาเมนูท้องถิ่นเมนูนี้มาลอง ก็ไม่ว่ากัน


สูตรอาหารแก้เมาค้างจากก้นครัวต่างแดน จะปาร์ตี้ประเทศไหนก็เอาอยู่ อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://mmed.com/