จัดเลี้ยงนอกสถานที่:ไอเดียเนรมิตเต็นท์ในงานแต่งให้เก๋ไก๋จนแขกร้องว้าวบ่าวสาวที่อยากจัดงานแต่งงานท่ามกลางบรรยากาศแบบเอ๊าท์ดอร์ในตอนกลางวัน แต่ก็แอบเกรงใจว่าแขกอาจจะต้องร้อนจากแสงแดดที่สาดส่องลงมา จึงเลือกที่จะจัดงานภายในเต็นท์ที่สามารถบังแดดได้และยังอยู่ท่ามกลางบรรยากาศแบบเอ๊าท์ดอร์ แต่ก็กังวลว่าแล้วเต็นท์ธรรมดาๆ จะทำยังไงให้สวยสมกับเป็นงานแต่งงานดี เลยมีไอเดียการแปลงโฉม เต็นท์ในงานแต่ง มาฝาก
1. แชนเดอเลียเขียวชอุ่ม
เสริมความสดใสท่ามกลางบรรยากาศสวนสวยให้ดูเข้ากันด้วยแชนเดอเลียใบไม้สีเขียวชอุ่ม ที่นอกจากจะเข้ากับบรรยากาศแล้วยังช่วยสร้างสีสันให้กับเต็นท์สีขาวได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
2. สร้างพื้นที่แดนซ์ฟลอร์
บ่าวสาวสามารถครีเอทพื้นที่แดนซ์ฟลอร์ได้ด้วยตัวเอง อาจจะเลือกเป็นแผ่นไม้เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศสวน หรือจะเลือกเป็นพื้นขาวดำที่ให้อารมณ์ทัยสมัย ซึ่งนอกจากจะเอาไว้เพื่อเต้นรำแล้ว บ่าวสาวอาจจะใช้พื้นที่นี้ในการกล่าวคำขอบคุณสำหรับแขกก็ได้เช่นกัน
3. แชนเดอเลียดอกไม้สดใสสุดขีด
โรแมนติกสุดๆ ไปเลยค่ะคุณขา เพราะเมื่อแหงนหน้าขึ้นไปก็พบกับความสดใสสุดๆ กับหมู่มวลดอกไม้หลากสีนานาพันธุ์ เป็นอีกหนึ่งไอเดียที่จะช่วยทำให้เต็นท์สีขาวแบบเดิมๆ ไม่น่าเบื่ออีกต่อไป
4. ทางเข้าสุดเก๋
เพื่อให้แขกและบ่าวสาวได้มีมุมสำหรับถ่ายภาพอีกหนึ่งมุม ไอเดียการสร้างซุ้มทางเข้าก็เจ๋งไม่ใช่น้อย ถือเป็นเหมือนแบ็คดร็อปสำหรับถ่ายภาพที่จะช่วยเสริมให้งานแต่งของบ่าวสาวไม่จืดชืด
5. ชิงช้าสุดน่ารัก
ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่หากเห็นชิงช้าก็อยากจะนั่งทุกคนไป แถมงานนี้ชิงช้ายังช่วยเสริมให้งานแต่งของบ่าวสาวเก๋ขึ้นไปอีก และเชื่อเถอะว่านี่จะเป็นอีกหนึ่งมุมสุดเจ๋งที่แขกต้องแย่งกันถ่ายภาพ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องแน่ใจว่าช่างแขวนชิงช้าเอาไว้ให้คุณอย่างแข็งแรงและปลอดภัยด้วยนะคะ
6. เล่นกับสีสันสุดหวาน
ท่ามกลางบรรยากาศสีเขียวของสวนและเต็นท์สีขาวสะอาดตา บ่าวสาวอาจจะเลือกใช้สีสันสุดอ่อนหวานหรือเฉดสีพาสเทลมาเป็นลูกเล่นเพื่อช่วยเสริมงานแต่งของคุณให้มีอารมณ์โรแมนติกสมกับเป็นวันพิเศษมากขึ้น
7. แสงสว่างท่ามกลางหมู่ดอกไม้
แสงสว่างและดอกไม้เป็นสองสิ่งที่จะช่วยเสริมให้งานแต่งของบ่าวสาวโรแมนติกมากขึ้น และเต็นท์แบบผ้าแคนวาสก็เข้ากันเป็นอย่างดีหากบ่าวสาวจัดงานในสไตล์โบฮีเมียน เพราะฉะนั้นควรเลือกดอกไม้สีสันสดใสมากๆ มาประดับตกแต่งเพื่อช่วยเสริมให้สีน้ำตาลของผ้าแคนวาสไม่จืดชืด
8. เถาวัลย์ลดเลี้ยวรอบเสา
แน่นอนว่าเต็นท์จะต้องมาพร้อมเสา เพราะฉะนั้นบ่าวสาวจึงต้องเสกเสาธรรมดาๆ ให้กลายเป็นต้นไม้ที่มีเถาวัลย์สีเขียวพันเกี่ยวลัดเลาะไปรอบๆ ซึ่งนอกจากจะช่วยพรางเสาได้แล้ว ยังให้อารมณ์สดชื่นสุดๆ ไปอีก
9. ตะเกียงส่องรัก
โดดเด่นไม่ซ้ำใครด้วยการห้อยตะเกียงไว้ที่ด้านบนของเต็นท์ ให้อารมณ์เหมือนอยู่ในโลกเทพนิยายนิดๆ แล้วอย่าลืมใส่เทียนเพิ่มความโรแมนติกไว้ด้านในหากบ่าวสาวจัดงานตอนกลางคืน และต้องคำนึงถึงความปลอดภัยด้วยนะคะว่าตะเกียงจะไม่หล่นลงมาระหว่างที่แขกกำลังเพลิดเพลินกับมื้ออาหารอยู่
10. ต้นไม้เพิ่มความใกล้ชิดธรรมชาติ
เสริมให้บรรยากาศภายในเต็นท์ดูใกล้ชิดธรรมชาติเข้าไปอีกกับต้นไม้ขนาดย่อม ที่แขวนเทียนหรือโหลแก้วใบเล็กๆ ไว้ หรือจะเลือกเป็นตะเกียงดีไซน์เก๋ๆ ก็ช่วยให้งานของบ่าวสาวดูสวยงามแบบร่วมสมัยได้ไม่น้อย
11. ตะเกียงแบบตะกร้า
นี่แหละความน้อยแต่มากของจริง! กับตะเกียงแบบตะกร้าที่ใส่ดวงไฟไว้ด้านในเพื่อความโรแมนติก แถมยังให้กลิ่นอายแบบชายทะเลนิดๆ อีกด้วย
12. แชนเดอเลียสุดหรู
ไม่ต้องหาอะไรมาเสริมให้ยุ่งยากและปวดหัว เพราะเพียงแค่บ่าวสาวเลือกแชนเดอเลียสวยๆ สักอันมาประดับ เท่านี้ก็ดูดีจนแขกต้องเอ่ยปากชมแล้ว
13.เต็นท์เค้ก
สร้างกิมมิกด้วยการเพิ่มเต็นท์เค้กก็เป็นไอเดียที่ดีไม่น้อย แถมบ่าวสาวยังได้มุมน่ารักสำหรับการถ่ายภาพเพิ่มมาอีกด้วย
14. เต็นท์แบบใสให้อารมณ์สมจริง
จัดงานท่ามกลางสวนสวยทั้งทีก็ต้องแหงนหน้าไปแล้วได้พบเห็นใบไม้และท้องฟ้ากันสักหน่อย เพราะฉะนั้นการเลือกเต็นท์แบบหลังคาใสจะช่วยให้งานแต่งของบ่าวสาวดูโดดเด่นและใกล้ชิดธรรมชาติขึ้นมาทันที
15. ไฟปิงปองสุดคลาสสิค
ไม่ต้องเน้นหรูแบบแชนเดอเลียก็สร้างความโดดเด่นให้เต็นท์แต่งงานได้ ด้วยการเสริมไฟปิงปองที่ห้อยไว้ด้านบน รับรองว่าแสงไฟสีส้มในยามค่ำคืนจะช่วยเสริมให้บรรยากาศในเต็นท์โรแมนติกขึ้นได้อย่างแน่นอน